เรียนบัลเล่ต์ใส่ชุดอะไร มีเครื่องแต่งกายอะไรบ้าง

การแต่งกายบัลเล่ต์นอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว ยังมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ในการแสดงบัลเล่ต์ เราคงเคยเห็นการแต่งกายบัลเล่ต์ผ่านตากันมาบ้างแล้ว เช่น ชุดบัลเล่ต์พร้อมกระโปรงฟู ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือการขึ้นปลายเท้าด้วยรองเท้าที่สวยงามพร้อมริบบิ้นสีชมพูอ่อน อีกทั้งรูปร่างของนักบัลเล่ต์ที่ดูปราดเปรียว ดึงดูดให้ชมการแสดงเป็นอย่างมาก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าเครื่องแต่งกายบัลเล่ต์นี้มีความสำคัญอย่างมาก ช่วยให้นักเต้นสามารถฝึกซ้อมและทำการแสดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสง่างาม

เครื่องแต่งกายที่สำคัญสำหรับการแต่งกายเรียนบัลเล่ต์ประกอบไปด้วย ชุดบัลเล่ต์, รองเท้าบัลเล่ต์, ถุงน่อง, สายรัดเอว, ถุงเท้า, และกระโปรง

ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่ารายละเอียดของเครื่องแต่งกายของบัลเล่ต์ แต่ละอย่างว่ามีความสำคัญอย่างไร เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานของการแต่งกายบัลเล่ต์

ชุดบัลเล่ต์ (Leotard)

การแต่งกายบัลเล่ต์ถือเป็นจุดเด่นของการเต้นประเภทนี้เลย ด้วยความที่ชุดบัลเล่ต์มีความเป็นเอกลักษณ์สูง มีความสง่างาม จึงสามารถเป็นแรงดึงดูดทางอ้อมให้หลายคนอยากเริ่มเรียนบัลเล่ต์ ซึ่งชุดบัลเล่ต์ที่นิยมใส่จะมีลักษณะเป็นเสื้อรัดรูป (Leotard) มีทั้งแขนสั้น แขนยาว แขนกุด และสายเดี่ยว โดยใส่พร้อมเครื่องแต่งกายบัลเล่ต์ เช่น ถุงน่องสีชมพูหรือสีเนื้อ รองเท้าบัลเล่ต์ กางเกงสั้นแนบตัว หรือจะใส่กระโปรงบาง ๆ ทับ

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนบัลเล่ต์เด็กเล็กสามารถเป็นชุดรัดรูปที่เสริมสร้างจินตนาการและเพิ่มแรงบันดาลใจในการเรียนได้ ยกตัวอย่างเช่น ชุดรัดรูปแบบชิ้นเดียวประกอบไปด้วยกระโปรงพู่ ๆ ตกแต่งด้วยกลิตเตอร์สีหวาน หรือชุดที่มีลวดลายตามยุคสมัยของเด็ก ๆ

ทั้งนี้ชุดสำหรับการเรียนบัลเล่ต์ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับการเต้นบัลเล่ต์ ไม่ว่าจะเป็นอิสระในการเคลื่อนไหว เน้นให้เห็นลายเต้นบัลเล่ต์ชัดเจนยิ่งขึ้น ระบายอากาศได้ดี เป็นต้น นอกจากนี้การแต่งกายบัลเล่ต์ในชุดการแสดงจะต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของนักแสดงเป็นหลักแล้ว ยังถูกออกแบบมาในลวดลายและการตกแต่งที่สวยงาม เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทการแสดงที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจในการแสดง

รองเท้าบัลเล่ต์ (Ballet Shoes)

รองเท้าบัลเล่ต์ เป็นหนึ่งในการแต่งกายบัลเล่ต์ ที่หลายคนคงเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว ซึ่งรองเท้าที่ใช้ในการเต้นบัลเล่ต์จะช่วยรองรับเท้าให้กับนักบัลเล่ต์เพื่อให้ทำการเคลื่อนไหวท่าต่าง ๆอย่างสะดวก และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้นักบัลเล่ต์ฝึกกล้ามเนื้อใต้ฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดี โดยรองเท้าบัลเล่ต์จะมี 3 แบบหลัก ๆ แบ่งตามความชำนาญ ดังนี้

  1. Soft Shoes มักจะใช้ในระยะแรกของการเริ่มเรียนบัลเล่ต์ เหมาะสำหรับนักบัลเล่ต์ทั้งระดับผู้เริ่มต้น จนถึงระดับมืออาชีพ
  2. Demi Pointe Shoes รองเท้าบัลเล่ต์ที่หัวรองเท้าจะมีความแข็งขึ้นกว่า Soft Shoes เหมาะสำหรับการเตรียมตัวขึ้นปลายเท้าและเปลี่ยนไปใช้ Pointe Shoes ต่อไป
  3. Pointe Shoes รองเท้าบัลเล่ต์ที่ถูกออกแบบมาให้มีหัวรองเท้าที่แข็งเพื่อให้นักบัลเล่ต์ สามารถเต้นระบำปลายเท้าได้ โดยส่วนมากจะเริ่มใช้รองเท้า Pointe Shoes ก็ต่อเมื่อขาและเท้าแข็งแรงขึ้น

การเลือกรองเท้าบัลเล่ต์ที่ดี ควรเลือกจากขนาดรองเท้าที่พอดีกับเท้า ไม่หลวมไม่คับจนเกินไป เพราะอาจทำให้เท้าของเราเกิดการบาดเจ็บได้

สำหรับใครที่อยากรู้จักประเภทของรองเท้าบัลเล่ต์ให้มากขึ้น สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: รองเท้าบัลเล่ต์มีกี่แบบ

ถุงน่อง (Ballet Tights)

ความพิเศษของเครื่องแต่งกายบัลเล่ต์ จะมีถุงน่องที่ใช้ควบคู่กับชุดบัลเลต์เสมอ ซึ่งถุงน่องบัลเล่ต์ (Ballet Tights) เป็นส่วนสำคัญในการแต่งกายบัลเล่ต์ เนื่องจากทำให้ผู้สวมใส่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ และช่วยให้ครูผู้สอนมองเห็นการเคลื่อนไหวของขาได้อย่างชัดเจน โดยนักบัลเล่ต์จะสวมใส่ถุงน่องครอบตั้งแต่ส่วนเท้าจนถึงเอวให้กระชับเข้าด้วยกัน

นอกจากนี้ถุงน่องที่ใช้ในการเต้นบัลเล่ต์จะมีความหนา และยืดหยุ่นกว่าถุงน่องทั่วไป มีผิวเรียบเนียน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในปัจจุบันมีถุงน่องหลายโทนสีให้เลือกมากมาย ผู้เรียนควรเลือกสีของถุงน่องให้เข้ากับสถานการณ์และบทบาทที่ได้รับในการเต้นบัลเล่ต์

สายรัดเอว (Elastic Belt)

สายรัดเอวสำหรับการแต่งกายบัลเล่ต์นิยมในนักเรียนบัลเล่ต์เด็กจนถึงผู้ใหญ่ที่พึ่งเริ่มเรียนบัลเล่ต์ มีความสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นสรีระเพื่อจัดระเบียบการเคลื่อนไหวของร่างกาย สำหรับวัสดุที่ใช้ผลิตสายรัดเอวมักจะทำจากวัสดุที่ยืดหยุ่นได้ เพื่อสามารถรัดรูปของร่างกายไว้ให้คงที่ ไม่หลวมและไม่คับแน่นจนเกินไป

ถุงเท้า (Ballet Socks)

ถุงเท้าบัลเล่ต์จะนิยมใช้สำหรับเด็กโดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมใส่ถุงน่อง เพื่อให้ครูผู้สอนเห็นการทำงานของกล้ามเนื้อขาอย่างชัดเจน โดยการเลือกใช้ถุงเท้าบัลเล่ต์และความยาวของถุงเท้าบัลเล่ต์ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งาน

กระโปรง (Ballet Tutu)

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเอกลักษณ์การแต่งกายบัลเล่ต์อีกหนึ่งอย่าง ที่ช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับการเต้นประเภทนี้ก็คือ กระโปรงบัลเล่ต์ หรือที่เรียกว่า Ballet Tutu นั่นเอง ซึ่งกระโปรงบัลเล่ต์เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายบัลเล่ต์ที่มีความสำคัญ โดยจะเน้นใส่กระโปรงเพื่อความสวยงาม และเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับการแสดงบนเวที

กระโปรงบัลเล่ต์มีหลากหลายแบบแตกต่างกันออกไปตามลักษณะการใช้งาน หรือการแสดงที่เฉพาะเจาะจง หลัก ๆ แล้วกระโปรงบัลเล่ต์จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้

  1. กระโปรงบัลเล่ต์ Classical Tutu จะเป็นลักษณะกระโปรงที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นคือมีลักษณะบานออก ใช้ผ้าหลายชั้นเย็บติดกันเพื่อให้ตั้งเป็นทูทู่ล้อมรอบลำตัว ชั้นบนสุดตกแต่งด้วยเพชร หรือดอกไม้เพื่อให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ
กระโปรงบัลเลต์ Classical Tutu
  1. กระโปรงบัลเล่ต์ Romantic Tutu เป็นกระโปรงที่มีลักษณะเป็นทรงระฆังคว่ำ ใช้ผ้าหลายชั้นเพื่อให้กระโปรงมีทรงที่สวยงาม
กระโปรงบัลเลต์ Romantic Tutu

ในการแต่งกายบัลเล่ต์ กระโปรงบัลเล่ต์ถือเป็นส่วนสำคัญ โดยนักเต้นจะต้องเลือกสีและลวดลายให้เข้ากับแสดง กระโปรงควรทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม เช่น ผ้าจอร์เจีย หรือผ้าชีฟอง มีขนาดพอดีตัว ไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป

สรุป

การแต่งกายบัลเล่ต์ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม ทำการแสดง หรือเรียนตามหลักสูตร ควรให้ความสำคัญกับขนาดที่พอดีตัว เลือกให้เข้ากับการแสดง โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายบัลเล่ต์ อย่างรองเท้า หรือริบบิ้นรองเท้า ควรใส่อย่างถูกต้อง มีความกระชับก่อนเริ่มเต้นบัลเล่ต์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะทำการฝึกซ้อม หรือทำการแสดง

นอกจากเหนือจากนี้การแต่งกายบัลเล่ต์จะช่วยให้การเคลื่อนไหวของนักเต้นเป็นไปอย่างมีระเบียบ คล่องแคล่ว มีอิสระในการเคลื่อนไหว และยังแสดงออกถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สวยงามของศิลปะการเต้นบัลเล่ต์อีกด้วย