การแสดงบัลเล่ต์ 5 เรื่องยอดนิยมที่ควรดูสักครั้งในชีวิต

แม้ว่าการแสดงบัลเล่ต์ในปัจจุบัน จะมีการหยิบเรื่องราวใหม่ ๆ มาจัดแสดง แต่การแสดงบัลเล่ต์แบบคลาสสิกก็ยังสวยงาม ตราตรึง และประทับใจผู้ชมไม่เสื่อมคลาย โดยมี 5 เรื่องยอดนิยมได้แก่

Swan Lake

บัลเล่ต์เรื่อง Swan Lake ถือได้ว่าเป็นการแสดงที่มีประวัติอันยาวนาน เป็นหนึ่งในบัลเล่ต์เรื่องที่แสดงมาตลอดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการสร้างบัลเล่ต์เรื่องนี้ขึ้น

การแสดงบัลเล่ต์บัลเล่ต์เรื่องนี้ แต่งขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1875-1876 โดยนักประพันธ์ชาวรัสเซีย Pyotr Ilyich Tchaikovsky หรือที่รู้จักกันในชื่อไซคอฟสกี้ และจัดแสดงครั้งแรกที่โรงละคร ฺBolshoi ในมอสโคว ประเทศรัสเซีย

เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องราวความรักของเจ้าหญิงผู้ถูกสาปให้เป็นหงส์ ซึ่งวิธีเดียวที่จะลบล้างคำสาปคือต้องใช้รักแท้จากชายที่ซื่อสัตย์และไม่มีหญิงอื่น

เจ้าชายซิกฟรีดหลงรักเจ้าหญิงผู้ถูกสาปเป็นหงส์ และสัญญาที่จะแก้คำสาปนี้ให้กับเธอ แต่เจ้าชายกลับถูกมนตร์ดำของพ่อมดร้ายล่อลวงให้เข้าใจผิดจนเอ่ยคำรักกับหญิงอื่นด้วยเข้าใจว่าหล่อนเป็นนคนรักของเขา ในตอนท้ายแม้จะแก้คำสาปได้ แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตของทั้งคู่

สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สวอนเลค (Swan Lake) เนื้อเรื่องย่อ ประวัติความเป็นมา

The Nutcracker

The Nutcracker อีกหนึ่งการแสดงบัลเล่ต์อันมีชื่อเสียงที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อ บัลเล่ต์เรื่องนี้เป็นผลงานการประพันธ์ของ Pyotr Ilyich Tchaikovsky เช่นเดียวกัน ถูกจัดแสดงเป็นครั้งแรกในปี 1892 โดยนักบัลเล่ต์ของ Mariinsky Theater ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย

ภายหลังได้มีผู้นำไปเผยแพร่ในอเมริกา และได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีการนำเนื้อเรื่องไปดัดแปลงเป็นสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรืออนิเมชันของดิสนีย์ซึ่งได้รับความนิยมท่วมท้นเช่นกัน

The Nutcracker เป็นเรื่องราวของคลาร่า สาวน้อยที่ได้รับของขวัญคริสต์มาสเป็นตุ๊กตาไม้แกะสลัก และเธอก็ชอบตุ๊กตาตัวนี้มาก แต่ในคืนหนึ่ง ตุ๊กตาไม้กลับมีชีวิต กลายร่างเป็นเจ้าชาย พาเธอออกเดินทางไปยังอาณาจักรขนมหวาน ต่อสู้กับราชาหนู

เรื่องราวของ The Nutcracker ยังคงได้รับความนิยม และมีการแสดงอยู่จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานความงดงามของบัลเล่ต์ที่หากใครมีโอกาสดูก็ไม่ควรพลาด

The Sleeping Beauty

The Sleeping Beauty หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ เจ้าหญิงนิทรา เป็นอีกหนึ่งการแสดงที่มีชื่อเสียงที่สุด โดยผู้ประพันธ์ก็คือ Pyotr Ilyich Tchaikovsky การแสดงบัลเล่ต์เรื่องนี้มีขึ้นครั้งแรกที่ Mariinsky Theatre เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย ในปี 1890 เป็นบัลเล่ต์เรื่องที่แสดงโดยดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจากนิทานของสองพี่น้องตระกูลกริมม์

The Sleeping Beauty เล่าถึงเจ้าหญิงออโรร่า ที่ถูกสาปจากนางฟ้าที่ชั่วร้ายนามว่าคาราโบส เนื่องจากคาราโบสโกรธที่พระราชาไม่เชิญเธอมางานเลี้ยงพิธีขนานนามของเจ้าหญิงออโรร่า คำสาปกล่าวไว้ว่าเมื่อเจ้าหญิงอายุครบ 16 ปี จะถูกเข็มปั่นด้ายแทงนิ้วตาย แต่นางฟ้าอีกองค์หนึ่งก็ช่วยแก้ไขคำสาป โดยเจ้าหญิงจะไม่ตาย เพียงแต่หลับไปเท่านั้น และจะฟื้นขึ้นได้ด้วยจุมพิตจากรักแท้

Romeo and Juliet

Romeo and Juliet เป็นบัลเล่ต์เรื่องที่แสดงโดยดัดแปลงมาจากวรรณกรรมของกวีชื่อก้องโลกอย่าง Shakespear โดย Sergei Sergeyevich Prokofiev คีตกวีชาวรัสเซีย จัดการแสดงบัลเล่ต์ครั้งแรกในปี ค.ศ.1935 โดยแรกเริ่มเดิมที บัลเล่ต์เรื่องนี้มีตอนจบแบบสุขนาฏกรรม ภายหลังจึงได้เปลี่ยนเป็นโศกนาฏกรรมเพื่อให้ตรงตามต้นฉบับของ Shakespear

Romeo and Juliet เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวชาวเมืองเวโรนา ซึ่งกลายเป็นรักต้องห้ามด้วยตระกูลของทั้งคู่เป็นศัตรูกัน หน้ำซ้ำ โรมิโอยังสังหารน้องชายน้องจูเลียตเพื่อแก้แค้นแทนเพื่อนสนิทของเขา ทำให้ถูกตัดสินเนรเทศออกจากเมือง

ด้านจูเลียตที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมก็ตัดสินใจดื่มยาพิษที่ทำให้ดูเหมือนตายไปแล้ว เพื่อหวังว่าเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาก็จะหนีไปกับโรมิโอ แต่โรมิโอเข้าใจผิดว่าเธอได้ตายไปจริง ๆ จึงฆ่าตัวตายตาม เมื่อจูเลียตฟื้นขึ้นมาพบร่างไร้ลมหายใจของคนรัก จึงใช้ดาบเล่มเดียวกันสังหารตัวเองตามไป

Giselle

Giselle เป็นการแสดงที่มีต้นแบบมาจากนิทานพื้นบ้านของเยอรมันที่แต่งโดย Heinrich Heine
Theophile Gautier ชาวฝรั่งเศส ได้นำมาดัดแปลงเป็นบทละครสำหรับการแสดงบัลเล่ต์ โดยมีผู้ประพันธ์เพลงคือ Adolphe Adam และออกแบบท่าเต้นโดย Jean Coralli แสดงครั้งแรกในปี ค.ศ.1815 ที่ Paris Opera

Giselle เป็นเรื่องราวของหญิงสาวชาวบ้านผู้รักการเต้นรำ และพบรักกับชายหนุ่มที่ไม่ทราบที่มา แท้จริงแล้ว เขาเป็นดยุกที่ปลอมตัวเป็นคนธรรมดาเพราะหลงรักจีเซลล์ รวมถึงเขาเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว

ภายหลังเมื่อจีเซลล์รู้ความจริงจึงใช้ดาบแทงที่อกของตนเอง และกลายเป็นหนึ่งในนางพรายที่ล่อลวงผู้ชายที่หลงเข้าไปในป่าให้เต้นรำจนตาย เมื่อดยุกตามไปที่หลุมศพของจีเซลล์ เขาก็ถูกนางพรายอื่น ๆ บังคับให้เต้นรำจนเกือบหมดแรง แม้ว่าจีเซลล์จะพยายามปกป้องเขาก็ไม่เป็นผล

แต่ในท้ายที่สุด พระอาทิตย์ก็ขึ้นจากขอบฟ้า ทำให้นางพรายทั้งหมดต้องกลับไปยังหลุมศพ ดยุกรอดชีวิต แต่เขาและจีเซลล์ก็ต้องจากกันตลอดกาลเช่นกัน

สรุป

บัลเล่ต์ (Ballets) เรียกได้ว่าเป็นศิลปะขั้นสูงที่ผสานทั้งความงดงามของท่วงท่า บทเพลง เนื้อเรื่อง รวมถึงค์ประกอบต่าง ๆ อีกมากมาย เป็นวัฒนธรรมที่ส่งต่อกันมายุคสู่ยุค การชมบัลเล่ต์จึงไม่ให้แค่ความสนุกของเนื้อเรื่อง แต่ยังถ่ายทอดศิลปะวัฒนธรรมล้ำค่าผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ อีกมากมาย

การแสดงบัลเล่ต์ทั้ง 5 เรื่องนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีบัลเล่ต์อีกหลายเรื่องที่ทั้งสวยงาม ทรงคุณค่า และรอให้ทุก ๆ คนได้ลองไปสัมผัสด้วยตาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Don Quixote, The Hunchback of Notre Dame, A Midsummer Night’s Dream และอื่น ๆ อีกมากมาย