รวม 4 เบสิคพื้นฐานการเต้น พร้อมทักษะที่ต้องฝึกถ้าอยากเต้นเก่งขึ้น
หลายคนเริ่มให้ความสนใจกิจกรรมการเต้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเต้นเพื่อความบันเทิง หรือเต้นเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้การเต้นยังสามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้วิธีการเต้นเบื้องต้น หรืออยากเต้นเก่งขึ้น ทักษะการเต้นพื้นฐานเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเลย
ซึ่งเราได้รวม 4 ทักษะการเต้นพื้นฐานที่สามารถนำไปผสานกับการเต้นได้ทุกประเภท ไม่มีพื้นฐานการเต้นก็เต้นได้ จะฝึกเต้นสไตล์ไหนก็กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ
4 พื้นฐานการเต้นมีอะไรบ้าง?
สำหรับพื้นฐานการเต้นที่สามารถนำไปต่อยอดได้หลายประเภท ประกอบไปด้วย 4 ทักษะการเต้น ได้แก่ การนับจังหวะเต้น การแยกสัดส่วนของร่างกาย การวอร์มร่างกายก่อนเต้น และอินเนอร์การเต้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
การนับจังหวะเต้น
แน่นอนว่าการเต้นย่อมมากับจังหวะเพลง การใช้วิธีนับจังหวะเต้นจึงเป็นพื้นฐานการเต้นที่สำคัญ ที่จะช่วยให้เราเต้นได้ตรงกับจังหวะเพลง สามารถเก็บรายละเอียดท่าเต้นได้ครบถ้วน ไม่ว่าเพลงจะช้าหรือเร็ว การนับจังหวะเต้นก็จะทำให้เราเต้นตามเพลงได้ ท่าเต้นคม สวย อีกทั้งยังช่วยฝึกเต้นง่ายขึ้นอีกด้วย
โดยวิธีการนับจังหวะเต้นจะนับจากเสียงหรือจังหวะหลักที่อยู่ในเพลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ในเพลงมีจังหวะ 4/4 นั่นหมายความว่าทุก ๆ 4 เสียงเท่ากัน สเต็ปการเต้นสามารถนับเป็น 1 2 3 4 หรือ 1 และ 2 และ 3 และ 4 ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้การนับจังหวะเต้นไม่มีแบบตายตัว ยังสามารถนับจังหวะอื่น ๆ ได้อีก เช่น การนับจังหวะ 1-8 หรือ 1 และ 2 และ 3 และ 4 … และ 8 เป็นต้น ขึ้นอยู่กับจังหวะของเพลง และการเต้น
นอกจากนี้การฟังเพลงบ่อย ๆ หรือฟังเพลงแนวที่ตนเองสนใจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราฝึกนับจังหวะได้ง่ายกว่าเดิม การนับจังหวะเต้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน และปรับปรุงเรื่อย ๆ เพื่อพัฒนาทักษะการเต้นให้แม่นยำยิ่งขึ้น
แยกสัดส่วนร่างกาย (Body Isolation)
ทักษะการเต้นต่อมาคือการแยกสัดส่วนของร่างกาย หรือการฝึกควบคุมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง (Body Isolation) การฝึกพื้นฐานการเต้นในลักษณะนี้จะช่วยให้อวัยวะของเราเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ช่วยให้เกิดความหลากหลายในการเคลื่อนไหว สามารถควบคุมร่างกายให้ขยับไปตามที่เราต้องการ เช่น แขน ขา คอ สะโพก ไหล่ หน้าอก ท้อง เป็นต้น หากเราเริ่มคุ้นชินกับการแยกสัดส่วนแล้ว ก็จะสามารถฝึกเต้นได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างเทคนิคทักษะการเต้นโดยใช้ Body Isolation ที่สามารถลองฝึกขยับตามได้ง่าย ๆ
- การเคลื่อนไหวของหน้าอก (Chest Isolation) เช่น หมุนหน้าอกไปทางด้านซ้าย-ขวา หรือขึ้น-ลง
- การเคลื่อนไหวของสะโพก (Hip Isolation) เช่น ขยับสะโพกไปทางซ้าย-ขวา หรือขึ้น-ลง หรือหมุนเป็นวงกลม
- การเคลื่อนไหวของแขนและมือ (Arm and Hand Isolation) เช่น กางแขนจนสุด หมุนขอมือ งอแขน สะบัดข้อมือ เป็นต้น
การแยกสัดส่วนร่างกายต้องอาศัยการควบคุมของกล้ามเนื้อ หากเริ่มคุ้นชินกับการขยับร่างกายส่วนต่าง ๆ แล้ว ลองนำมาผสมผสานเต้นไปพร้อม ๆ กัน เพื่อเพิ่มทักษะการเต้นให้คล่องมากขึ้น
วอร์มร่างกายก่อนเต้น
เมื่อพร้อมที่จะเริ่มเต้นแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจคือ การวอร์มร่างกายก่อนนั่นเอง โดยการวอร์มร่างกายจะช่วยเตรียมกล้ามเนื้อและข้อต่าง ๆ ให้พร้อมทำงานในระหว่างการเต้น และยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บของร่างกายระหว่างการเต้น นอกจากนี้ในช่วงการวอร์มร่างกายก็สามารถเป็นช่วงที่ผู้เต้นจะได้โฟกัสและตั้งใจกับท่าเต้นอีกด้วย
อินเนอร์ในการเต้น
นอกเหนือจากทักษะการเต้นที่ต้องใช้แล้ว อินเนอร์ (Inner) หรือการใช้ความรู้สึกในการเต้นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งอินเนอร์ในการเต้นจะมีความเกี่ยวข้องกับการส่งต่อความรู้สึก หรืออารมณ์ที่ผู้เต้นต้องการจะสื่อสารไปถึงผู้ชม โดยแสดงออกผ่านท่าทาง หรือการเคลื่อนไหวของร่างกายนั่นเอง
ส่วนมากแล้วการแสดงอินเนอร์ในการเต้นจะแตกต่างกันออกไปตามจังหวะเพลง หรือแนวเพลงนั้น ๆ หรือเป็นอินเนอร์ที่ผู้เต้นปรับเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกเอง เช่น
- การแสดงถึงความอ่อนโยน หรือความเศร้า จะเน้นใช้ลักษณะท่าทางที่พริ้วไหว เบาบาง เคลื่อนไหวแบบนุ่มนวล ยืดหยุ่น โดยทักษะการเต้นที่สามารถแสดงออกถึงความอ่อนโยน ความเศร้า เช่น Ballet, Contemporary Dance เป็นต้น
- การแสดงถึงความสนุกสนาน จะเน้นการเต้นที่เคลื่อนไหว อิสระ ร่าเริง โดยทักษะการเต้นเน้นที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน เช่น Hip Hop Dance, K-Pop Dance เป็นต้น
ทักษะที่ต้องมีสำหรับการเต้น ถ้าอยากเก่งขึ้น
สำหรับผู้ที่อยากพัฒนาทักษะการเต้นให้เก่งขึ้น อาจจะต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ควบคู่กันไป เพื่อเสริมให้การเต้นของเราคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น โดยมีทักษะที่น่าสนใจ ดังนี้
ความแข็งแรง (Strength)
หากกล้ามเนื้อของเราแข็งแรง ก็จะสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและท่าทางในการเต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลายเต้นมีความชัดเจน อีกทั้งยังช่วยเสริมให้บุคลิกดูดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายและกล้ามเนื้อจึงเป็นหนึ่งในทักษะการเต้นที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลย
ความคล่องแคล่ว และยืดหยุ่น (Flexibility)
การเต้นทุกประเภทมักจะมีเรื่องของทักษะความคล่องแคล่ว และความยืดหยุ่นของร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากจะช่วยเสริมให้ท่าเต้น หรือการเคลื่อนไหวระหว่างการเต้นเป็นไปอย่างสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ ช่วยทำให้ท่าเต้นที่ดูซับซ้อนดูเข้าใจง่ายมากขึ้น รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บขณะเต้นอีกด้วย
การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ (Consistent Practice)
แน่นอนว่าถ้าอยากเต้นเก่งขึ้น ทักษะการเต้นสิ่งแรกที่ต้องมีเลยคือ การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ในช่วงแรกของการเต้น หลายคนอาจจะยังเต้นผิดบ้าง ไม่คล่องบ้าง ท่าดูยังไม่สวยงามบ้าง แต่ถ้าหากเราตั้งใจและหมั่นฝึกซ้อมอยู่ต่อเนื่อง ความขยันจะพัฒนาพื้นฐานการเต้นของคุณให้ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ จนสามารถเต้นได้อย่างคล่องแคล่ว
สรุป
การจะพัฒนาทักษะการเต้นให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเต้น หรือผู้ที่อยากเต้นเก่งขึ้น ก็ต้องอาศัยการฝึกซ้อมและเรียนรู้ตั้งแต่ท่าเต้นเบสิค เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน และพัฒนาพื้นฐานการเต้นให้ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้น การเต้นพื้นฐานจะสามารถช่วยให้คุณแสดงการเต้นออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสวยงาม สามารถนำไปผสานเข้ากับการเต้นประเภทอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว